แบ่งตามขนาด
หมายถึง การแบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์ตามความสามารถในการทำงานหรือประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ ขนาดของหน่วยความจำภายในและหน่วยความจำสำรองภายนอกความสามรถทางด้านการเชื่อมต่อเครือข่าย จำนวนอุปกรรค์ที่ต่อพ่วงและอาจรวมถึงลักษณะทางด้านกายภาย (Physical) ของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย สามารถแบ่งเป็น 4 ประเภทดังนี้
1. ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer) หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีราคาต่ำที่สุด มีขนาดเล็กที่สุดไม่โครคอมพิวเตอร์ในอดีตมีความเร็วในการทำงานต่ำและมีหน่วยความจำน้อย แต่ในปัจจุบันมีความเร็วในการประมวลผลสูงมาก และมีหน่วยความจำมากนอกจากนี้ยังมีการผลิตเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์แบบกระเป๋าหิ้ว (Notebook) และมีการนำไปต่อเป็นระบบเครือข่ายเพื่อสามารถติดต่อเชื่อมโยงกันได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

2. มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ มีความเร็วในการประมวลผลสูงมีหน่วยความจำและราคาสูงกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ แต่มีความสามารถต่ำกว่าเครื่องประเภทเมนเฟรม ส่วนมากจะนำมินิคอมพิวเตอร์ไปใช้เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์กลาง (File Server) ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

3. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframecomputer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่กว่ามินิคอมพิวเตอร์ มีความเร็วในการประมวลผลสูงก่าส่วนมากจะนำเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ไปใช้เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณข้อมูลมาก ต้องการประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วสูง

4. ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องเมนเฟรมมีความเร็วในการประมวลผลสูงกว่าเครื่องคอมประเภทอื่นทั้งหมด มีราคาแพงที่สุด โดยทั่วไปสร้างขึ้นเพื่อใช้ในงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และงานวิจัยด้านอาวุธทางทหาร งานวิจัยทางด้านยานอวกาศ เครื่องประเภทนี้ต้องติดตั้งในห้องที่มีสภาพแวดล้อมพิเศษ

แบ่งตามลักษณะข้อมูลที่ใช้
การแบ่งตามลักษณะข้อมูลที่ใช้ หมายถึง การแบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์ตามลักษณะของข้อมูลที่รับเข้าสู่ระบบการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ1. อนาลอกคอมพิวเตอร์ (Analog Compurter) คือ คอมพิวเตอร์ที่สามารถรับข้อมูลประเภทที่เป็นหน่วยวัดแบบต่อเนื่องที่ได้มาจากเครื่องมือวัดประเทภต่าง ๆ เช่น ความดังของเสียง ความเร็วของรถยนต์ ความกดอากาศ อุณหภูมิ ข้อมูลที่ได้จากการวัดแบบต่อเนื่องนี้ เรียกว่า ข้อมูลแบบอนาลอก อนาลอกคอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ที่ต่อเชื่อมกับอุปกรณ์เครื่องมือวัดประเภทต่าง ๆเช่น คอมพิวเตอร์ทางด้านการแพทย์ คอมพิวเตอร์ควบคุมเครื่องจักร คอมพิวเตอร์ควบคุมความเร็ว คอมพิวเตอร์ควบคุมอุปกรณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์ เป็นต้น2. ดิจิตอลคอมพิวเตอร์ (Digital Computer) คือ คอมพิวเตอร์ที่สามารถรับข้อมูลประเภทที่เป็นหน่วยนับซึ่งสามารถจำแนกได้ เช่น ตัวเลขทางด้านธุรกิจ การเงิน ภาษี รายรับรายจ่ายต่าง ๆ เป็นต้น ข้อมูลที่ได้จากการนับนี้เรียกว่า ข้อมูลแบบดิจิตอล (Digital) คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ได้แก่เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถรับข้อมูลและประมวลผลเป็นระบบจำนวนเลขฐานสอง คือ 0 และ 1 นั่นเอง3. ไฮบริดคอมพิวเตอร์ (Hybrid Compurter) คือ คอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติรับข้อมูลที่เป็นทั้งแบบดิจิตอลและอนาลอก เข้าสู่ระบบการประมวลผลได้ โดยนำคุณสมบัติที่ดีของคอมพิวเตอร์ทั้งสองแบบมาสร้างเป็นไฮบริดคอมพิวเตอร์
แบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้
หมายถึง การแบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์ ตามวัตถุประสงค์ที่สร้างขึ้นมา และการนำไปประยุกต์ใช้งาน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ1. คอมพิวเตอร์อเนกประสงค์ (General-purpose Computer) คือ คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบและสร้างมาเพื่อประยุกต์ใช้กับงานได้หลาย ๆ ด้าน เช่น งานด้านธุรกิจ ด้านออกแบบ งานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก งานด้านสถิติ ด้านการศึกษา ด้านวงการบันเทิง ด้านการติดต่อสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่งสามารถใช้งานได้หลายอย่างคอมพิวเตอร์ประเภทนี้จึงมีคุณสมบัติคล้ายกับคอมพิวเตอร์ไฮบริดและไมโครคอมพิวเตอร์นั่นเอง2. คอมพิวเตอร์เฉพาะวัตถุประสงค์ (Special-purpose Computer) คือ คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบและสร้างมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะด้านเท่านั้น หน่วยประมวลผลกลางถูกออบแบบมาโดยเฉพาะพื่อทำการประมวลผลในด้านนั้น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่สามารถนำคอมพิวเตอร์ประเภทนี้มาใช้ในงานทั่ว ๆ ไปได้ เช่น คอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมอุปกรณ์ทางการแพทย์ คอมพิวเตอร์ควบคุมหุ่นยนต์ คอมพิวเตอร์ควบคุมยานอวกาศ คอมพิวเตอร์ควบคุมดาวเทียม เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น